รีวิวหนัง Grave of the Fireflies สุสานหิ่งห้อย เมื่อสงครามก่อให้เกิดการสูญเสีย ชีวิตของเด็กสองคนที่ต้องดิ้นรน
ประเภทของภาพยนตร์: สงคราม ดราม่า
วันที่เข้าฉาย: 16 เมษายน ค.ศ. 1988
ผู้กำกับ: อิซาโอะ ทากาฮาตะ
นักแสดงนำ: สึโตมุ ทัตสึมิ , อายาโนะ ชิราอิชิ , โยชิโกะ ชิโนฮาระ , อาเกมิ ยามางูจิ
ความยาว : 89 นาที
เรื่องย่อ:
สุสานหิ่งห้อย เป็นเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ของสองพี่น้องที่อาศัยอยู่ในเมื่อง โกเบ ประเทศญี่ปุ่น เหตุการณ์เริ่มแรกเลยคือการเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง เซตะ โยโกกาวา ลูกชายคนแรกของนายพลทหารเรือ อายุ 14 ปี ที่กำลังขนเสบียงลงหลุมเพื่อให้มีอาหารเวลาสงครามนั้นสงบ และในเวลานั้นเครื่องบินกำลังบินผ่านมายังเมืองเพื่อปล่อยระเบิดครั้งรุนแรงกว่าที่ผ่านมา เซตะจึงให้แม่ของตนออกเดินทางไปยังหลุมหลบภัยก่อน เนื่องจากแม่เป็นโรคหัวใจ โดยเซตะ และ น้องสาว เซซึโกะ อายุ 4 ขวบ จะตามไปทีหลัง ซึ่งระหว่างทางไปหลุมหลบภัย ระเบิดจากเครื่องบินของทหารอเมริกาถูกทิ้งลงมา ทำให้เซตะและเซซึโกะ พลัดหลงกับแม่ของพวกเขา ทำให้เซตะพาน้องสาวไปหลบภัยอยู่หลังเนินถนนสูงเป็นกำแพงหินริมทะเล ซึ่งภายหลังพวกเขาพบว่าบ้านของพวกเขาถูกไฟไหม้หมดทั้งหลัง และรอบๆบริเวณนั้นถูกทำลายทั้งหมด หนังฟรี 2024
สองพี่น้องพยายามตามหาแม่ มีคนมากบอกเซตะว่าแม่ของเขาบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตลงเนื่องจากถูกไฟลวก และเมื่อเวลาผ่านไปเซซึโกะถามหาแม่ของเขาแต่เซตะบ่ายเบียงไม่ยอมบอกและปกปิดน้องสาวของเขาไม่ให้รู้ว่าแม่ได้เสียชีวิตแล้ว และทั้งสองก็ได้ไปอยู่กับป้า ฮิซาโกะ ของพวกเขา ซึ่งป้าของเซตะถามถึงอาการปาดเจ็บของแม่ เซตะจึงต้องบอกความจริงไปว่าแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว และต่อมาพวกเขาก็ทนนิสัยป้าของเขาไม่ไหวจึงออกจากบ้านป้ามาทั้งสองคน ทั้งสองพี่น้องจึงไปอยู่ในเหมืองเก่าๆ ซึ่งในสมัยก่อนใช้เป็นที่หลบภัย ภายในเหมืองมีแสงสว่างน้อยมากทำให้เซซึโกะกลัวความมืด เมื่อเป็นเช่นนั้น เซตะพี่ชายจึงไปหาหิ่งห้อยมาปล่อยไว้มากมายทำให้มีแสงสว่างมากพอทำให้เซซึโกะไม่กลัว
และเมื่อเวลาผ่านไปนาน อาหารก็เริ่มหมด และไม่มีอาหารให้แลกแล้ว และเซซึโกะก็เริ่มมีอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้น ซึ่งเซซึโกะป่วยเป็นโรคขาดสารอาหาร และเมื่ออาหารหมด ทำให้เซตะต้องขโมยของตามบ้านเมื่อมีการทิ้งระเบิดของทหารอเมริกา ผู้คนมากมายกำลังหลบหนีระเบิดอยู่แต่เซตะกลับวิ่งฝ่าระเบิดเข้าไปตามบ้านคนที่ว่างเปล่าเพื่อเข้าไปหาของกินมาให้เซซึโกะ และนานวันเข้าอาการป่วยของเซซึโกะเริ่มมากขึ้น เซตะจึงพาน้องไปหาหมอแต่หมอก็ไม่มียารักษาให้ มีวันหนึ่งเซตะเข้าไปในตัวเมืองเพื่อไปถอนเงินก้อนสุดท้ายเพื่อเอาออกมาใช้ และเขาก็ได้ข่าวว่าญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามแล้ว เรือทุกลำจมลงทะเลหมด จมไปพร้อมกับความหวังที่จะเห็นพ่อซึ่งเป็นทหารเรือกลับมาหาตนและน้อง
เมื่อเซตะกลับมาที่เหมือง เขาเห็นน้องสาวนอนอมลูกหินอยู่ซึ่งเซซึโกะคิดว่าป็นลูกอม เซตะจึงห้ามไม่ให้น้องสาวกินลูกหินอีก และเขาจึงไปเอาแตงโมมาป้อนให้เซซึโกะกินและปล่อยให้เซซึโกะนอนพัก เมื่อเห็นน้องสาวนอนพัก เซตะจึงไปทำอาหาร และตั้งแต่นั้นมา เซซึโกะก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกตลอดกาล ในคืนที่ฝนตกหนักและหนาวเย็นเซตะนอนกอดร่างไร้วิญญาณของน้องสาวเขาทั้งคืน และพอเช้าเซตะ ก็เผาร่างของเซซึโกะและนำเศษกระดูกมาใส่ในกล่องลูกอมและเซตะก็นำกล่องนั้นติดตัวไปตลอดจนกระทั่งเขาเสียชีวิตลงที่สถานีรถไฟในวันที่ 21 กันยายน ปี 1945
ในตอนเริ่มเรื่องและตอนจบของเรื่อง จะสื่อถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองซึ่งแม้จะเสียชีวิตไปทั้งสองคน แต่ทั้งคู่ก็เป็นวิญญาณและอยู่ด้วยกันตลอดไป หลังจากนั้น 1 เดือนหลังจากจบสงคราม จึงมีการกฎหมายบังคับใช้คุ้มครองเด็กที่ประสบในภาวะสงครามขึ้น ในเรื่องสุสานหิ่งห้อยนั้น จะเปรียบหิ่งห้อยที่มีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่วัน เหมือนกับชีวิตเด็กๆที่อดอยากไม่มีกิน เนื่องจากผลจากการกระทำของสิ่งใดก็ตาม และยังเปรียบแสงของหิ่งห้อยเหมือนความหวังอันริบหรี่ของเด็กๆที่สุดท้ายความหวังอันนั้นก็ดับไปพร้อมกับแสงสว่างของหิ่งห้อยยามเมื่อมันตายลง
ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:
สุสานหิ่งห้อย (Grave of the Fireflies) ใครที่ชื่นชอบการดูการ์ตูนอนเมชั่น ทางเราของแนะนำเรื่องนี้เลย โดยเรื่องนี้จะเป็นการเล่าเรื่องราวของสองพี่น้องชาวญี่ปุ่นที่ผ่านเรื่องราวอันเลวร้ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะเนื้อหาในเรื่องนั้นค่อนข้างที่จะไปทางหดหู่และมีการสูญเสียเกิดขึ้น ทำให้เราที่ดูเรื่องนี้สะเทือนใจไม่น้อย ถ้าหากใครที่ Sensitive อาจจะดูต่อจนจบไม่ไหว ซึ่งเรื่องนี้ถูกนำมาฉายในโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 1988 ซึ่งออกอากาศมานานแล้วค่ะ 2u-hd.com
ภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงภาวะสงครามโลกที่เกิดขึ้นจริงในอดีต โดยฉายให้เห็นถึงชีวิตและความยากลำบากของสงครามโลกในสมัยนั้น และผลกระทบของสงครามที่ส่งผลต่อชาวบ้านและประชาชนในสมัยนั้น ถึงแม้จะเป็นหนังที่เก่าแล้ว แต่ก็เชื่อว่าหนังเรื่องนี้ยังคงติดตราตรึงใจของใครหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นทั้งความโศกเศร้า หรือการสะท้อนสังคม ที่ทำให้หลายๆคนนั้นยกเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องโปรด แต่ใครหลายๆคนก็จะพูดกันทำนองว่า "เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ชีวิตนี้ขอดูแค่ครั้งเดียว" ส่วนตัวของอากิโกะเองก็ได้ดูเรื่องนี้หลายรอบมากค่ะ เพราะเป็นคนที่ชื่นชอบผลงานอนิเมชั่นในStudio Ghibli อยู่แล้ว และเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำบรรยากาศออกมาได้อย่างดีมากค่ะ ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะค่อนข้างเรียบง่าย แต่การนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการค่อยๆฉายถึงความทรงจำต่างๆจากสองพี่น้อง อาทิเช่น ภาพความทรงจำที่มีกับแม่ผู้ล่วงลับไปแล้วที่เคยมีความสุขกัน และภาพยนตร์เรื่องนี้เองก็ทำให้ผู้ที่ได้รับชมเกิดข้อคิดแนวความคิดเห็นแตกต่างออกไปมากมายเช่นเดียวกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการวิจาร์ณการกระทำของตัวละคร หรือความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวละครใดตัวละครหนึ่ง ทำให้เรื่องนี้สามารถตกตะกอนความคิดออกไปได้หลายมุมมองมากค่ะ เพราะส่วนตัวอากิโกะเอง ตอนที่ได้ดูครั้งแรก กับตอนที่ได้ดูเมื่อครั้งล่าสุดเอง ความคิดเห็นต่อตัวละครก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกันค่ะ อาจจะเป็นเพราะความคิดหรืออะไรต่างๆทำให้เราเติบโตขึ้น การกระทำต่างๆของตัวละครเลยทำให้เราสามารถมองเห็นและเข้าใจการกระทำของตัวละครนั้น
เรื่องสุสานหิงห้อยนี้เป็นเรื่องราวที่เรียกได้ว่าหนังที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้เพราะเรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริงของสองพี่น้องที่ต้องสูญเสียครอบครัวในสงครามและการแสดงออกถึงความรักของพี่ที่มีต่อน้องเป็นอย่างมาก เนื้อเรื่องดำเนินมาเรื่อยๆ ในเรื่องไม่ว่าจะเป็นฉาก แสง สีของตัวละครที่เล่าเรื่องราวให้เราได้ดู จากเด็กที่กำลังจะมีอนาคตที่สดใสกลับกลายเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของสองพี่น้อง สองพี่น้องต้องอดมื้อกินมื้อหรือไม่ได้กินอะไรเลยการเผชิญกับโชคชะตาที่โหาร้าย และนอกจากนี้แล้วยังบ่งบอกอีกว่าสภาวะสงครามนี้แต่ละคนต้องเอาตัวรอดกัน โดยในเรื่องนี้เล่าเรื่องราวออกมาได้ดีทำให้เราเข้าถึงตัวละครนั้นๆ ในเรื่องนี้ก็ได้สอดแทรกข้อคิดให้เรามากมาย
#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #Grave of the Fireflies #สุสานหิ่งห้อย
กลับด้านบน